หนังเล่าเรื่องราวของโลกอนาคตผ่านตัวละครใช้ชีวิตอยู่ในโลกใหม่บนดาวแห่งหนึ่งที่อยู่นอกโลก โดยทั้งหมู่บ้านมีแต่ผู้ชาย ทุกคนจะมีความคิดที่เป็นเสียงและภาพที่คนอื่นสามารถรู้ได้ว่าตอนนั้นกำลังคิดอะไรอยู่เรียกว่า “The Noise” ซึ่งคนส่วนมากไม่สามารถควบคุมความคิดนี้ได้และมีน้อยคนนักที่สามารถควบคุม The Noise ได้ ถ้าคนไหนสามารถควบคุมได้นั้นถือว่าเป็นอาวุธชิ้นสำคัญเลยทีเดียว
เรื่องราวที่เกิดขึ้นในโลกอนาคตดิสโทเปีย เกิดเชื้อโรคแปลกประหลาดคร่าสิ่งมีชีวิตเพศหญิงจนหมดสิ้น สังคมตกอยู่ในสภาวะสงครามและผู้ชายทุกคนที่เหลืออยู่จะเกิดอาการบางอย่างที่ไม่สามารถควบคุมตัวได้ ทุกความคิดในหัวมันจะถูกถ่ายถอดออกมาเป็นภาพ
กระทั่งวันหนึ่งขณะที่ “ทอดด์ ฮิววิตต์” (ทอม ฮอลแลนด์) ออกเดินทางพร้อมกับสุนัขตัวโปรดได้บังเอิญพบกับ “วิโอล่า” (เดซี่ ริดลีย์) ผู้หญิงคนแรกในชีวิต สิ่งที่เขาไม่เคยคิดว่าจะได้เจอจึงนำเรื่องนี้ไปบอกกับหัวหน้าหมู่บ้านที่รับบทโดย แมดส์ มิกเคลเซน เป็น “นายกเทศมนตรีเพรนทิส” และทำให้คนทั้งหมู่บ้านพยายามไล่ล่าตามหาตัวเธอให้เจอ เหตุการณ์นี้นำไปสู่เรื่องราวแห่งการผจญภัย ค้นหาคำตอบสุดลึกลับในอีกจักรวาลของโลก เพื่อหยุดยั้งภัยร้ายครั้งสำคัญที่กำลังจะมาถึง รวมถึงการหนีให้พ้นอานุภาพของ The Noise อีกด้วย
ตัวหนังถ้าว่ากันตามตรงคือดูพอแก้เบื่อขำ ๆ ได้ คอนเซ็ปต์ของหนังดีเป็นไซไฟแต่วางโครงเรื่องจริงมาแย่และการเดินเรื่องยิ่งแย่เข้าไปอีก เพราะแม้หนังจะพยายามสื่อว่าเหตุการณ์ที่เกิดในหนังคือวิกฤตที่ร้ายกาจและใส่เอเลี่ยนเข้ามาแต่น้ำหนักของธีมหนังก็ไม่ได้ดีขึ้น กับการไล่ล่าเอเลี่ยน 1 ตัวและฉากห้วงความคิดที่พยายามนำเสนอออกมาเป็นจุดขายที่สามารถทำให้ดีกว่านี้ได้ กลับนำเสนอได้แย่ เช่น หนังไม่สามารถตอบได้ชัดเจนว่าทำไม The Noise จึงมีเฉพาะในผู้ชายไม่มีในผู้หญิง การพยายามจับยัดเหตุการณ์ต่าง ๆ ทำให้หนังขาดที่มาที่ไปที่สมเหตุผลในโลกของตัวหนังเองและทำให้น่าเบื่อเร็วกว่าที่คิด เหมือนหนังเกรดบีที่ใช้ดาราเกรดเอเล่นเพื่อกลบความแย่ในการเดินเรื่องทั้งหมด
หรือถ้าจะมองในมุมสาระ ตัวหนังสามารถทำให้มีสาระสะท้อนสังคมได้หลายด้าน เช่น สังคมที่ชายเป็นใหญ่ การเหยียดเพศ การโตมาท่ามกลางการยัดเยียดความเชื่อที่ผิด ๆ รวมถึงคำโกหกลวงโลก แต่ทั้งหมดหนังก็นำเสนออย่างกระจัดกระจายจนไม่มีน้ำหนักในด้านใดเป็นพิเศษ
ทอดด์ ฮิววิตต์ (ทอม ฮอลแลนด์ ชื่ออังกฤษ : Tom Holland) เด็กหนุ่มที่มีปัญหาไม่สามารถควบคุมความคิดของตัวเองได้จนเป็นที่มาของปัญหาต่าง ๆ มากมาย บทของทอดด์สะท้อนตัวตนของทอมได้สูงมาก ทั้งความร่าเริง สนุกสนาน ตลกเฮฮา ขี้เล่น แถมยังพูดมากอีกต่างหาก ยิ่งโดยเฉพาะฉากที่ต้องพยายามควบคุมความคิดของตัวเองนั้น เรื่องราวมันถูกถ่ายทอดผลออกมาทางด้านคอมเมดี้ซะเป็นส่วนใหญ่ บทในหนังเรื่องนี้เค้าต้องพยายามฉีกตัวเองออกมาจากภาพลักษณ์ของไอ้หนุ่มแมงมุมหรือ Spider-Man อีกด้วย
วิโอล่า (เดซี่ ริดลีย์ ชื่ออังกฤษ : Daisy Ridley) สาวปริศนาที่มาพร้อมกับยานอวกาศ แรก ๆ เหมือนเธอจะไม่ค่อยมีบทบาทเท่าไหร่ แต่พอเริ่มดูไปสักพักถึงจะรู้ว่าตัววิโอล่าก็มีเสน่ห์ดึงดูดมาก โดยเป็นตัวละครสร้างเสน่ห์ที่เข้ามาเพิ่มความสนุกให้กับเรื่อง เป็นการฉีกภาพลักษณ์ของนักแสดงสาวที่คนติดภาพของ Ray ใน Star Wars
นายกเทศมนตรีเพรนทิส (แมดส์ มิกเคลเซน ชื่ออังกฤษ : Mads Mikkelsen) ผู้ปกครองคนในชุมชน ผู้มีความสามารถควบคุมความคิดของตัวเองได้ดีกว่าคนอื่นและเป็นใหญ่ในสังคม แมดส์ กับบทนี้เล่นได้ดีจนน่ากลัว ถือว่าเด่นกว่าบทที่เค้าเคยเล่นใน Doctor Strange
เดวี เพรนทิส (นิก โจนาส ชื่ออังกฤษ : Nick Jonas ) ลูกชายนายกเทศมนตรี ผู้ที่เป็นไม้เบื่อไม้เมากับท็อด นิกรับบทที่ไม่ค่อยจะมีอะไรน่าสนใจสักเท่าไหร่
แชร์ได้เลยเพียงกดเบา ๆ