Godzilla vs. Kong บอกเล่าเรื่องราวเมื่อสองตำนานต้องปะทะกันในศึกที่โลกต้องจารึกทุกยุคทุกสมัย โชคชะตาของโลกมนุษย์ก็ถูกแขวนอยู่บนเส้นด้าย คองและผู้ติดตามของมันเริ่มต้นการเดินทางเสี่ยงอันตรายเพื่อตามหาบ้านที่แท้จริง หนึ่งในผู้ร่วมเดินทางคือ เจีย (เคย์ลี ฮอตเทิล) สาวน้อยกำพร้าที่มีสายใยมิตรภาพอันแข็งแกร่งและไม่เหมือนใครเกิดขึ้นระหว่างพวกเขา โชคร้ายที่พวกเขาดันเลือกเดินทางที่นำไปสู่การเผชิญหน้ากับก็อดซิลล่าที่กำลังเกรี้ยวกราดเกิดเป็นความพินาศไปทั่วทั้งโลก แต่แท้จริงแล้วศึกสังเวียนของสองยักษ์ใหญ่ในตำนานครั้งนี้ถูกบงการด้วยอำนาจปริศนาและเป็นจุดเริ่มต้นของความลับที่ซ่อนอยู่ภายใต้ใจกลางของโลกมนุษย์เพียงเท่านั้น
ในภาคก่อนหน้าจะเห็นว่าได้รับเสียงบ่นด้วยเนื้อหาส่วนมากก็จะเป็นเรื่องของมนุษย์ ปัญหาครอบครัวที่ออกจะยืดเยื้อสักหน่อยทำให้เกิดความน่าเบื่อขึ้น ซึ่งในภาคนี้ก็ได้รับการปรับปรุงในเนื้อหาส่วนของมนุษย์ให้ลดลงแต่ก็ยังคงเชื่อยโยงกับเรื่องราวได้เหมือนเดิม เราจะได้เห็นตั้งแต่ต้นเรื่องเลยคือเห็นคิงคองพระเอกของเรื่องโดยที่ไม่ต้องรอนานกันอีกต่อไป ถ้าเราจะสังเกตุดีๆตัวคิงคองค่อนข้างจะตัวใหญ่ขึ้นและมีอาวุธประจำกายนั้นก็คือขวาน หลายคนคงเคยสงสัยว่าคิงคองจะสามารถต่อสู้กับก็อตซิล่าได้อย่างไรในเมื่อมีขนาดตัวที่เล็กกว่าแถมก็อตซิล่ายังสามารถพ่นไฟได้ด้วย ภาคนี้เราก็เลยได้เห็นพัฒนาการของคิงคองเพิ่มขึ้น ในส่วนของเนื้อหาก็คงไม่มีอะไรยุ่งยากซ้ำซ้อน เน้นฉากต่อสู้ของยักษ์ใหญ่สองชนิด แบบเต็มอิ่มสะใจกันด้วยแอ็กชั่นสุดมันส์กันเลย
แน่นอนว่าเรื่องราวก็จะเป็นตัวหลักอย่างคิงคองและก็อตซิล่า แต่เหมือนจะเน้นไปที่ตัวของคิงคองซะเป็นส่วนใหญ่โดยมีตัวเชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์และคิงคองคือเจีย เด็กหญิงกำพร้าที่สามารถสื่อสารกับคิงคองได้ ส่วนก็อตซิล่าเริ่มต้นมาก็เป็นตัวร้ายซะแล้ว แต่ช่วงท้ายก็อตซิล่าก็ได้เป็นพระเอกอยู่น๊าา หนังจะเน้นไปที่การต่อสู้และฉากปะทะสุดแสนอลังการงานสร้างของ 2 ยักษ์ใหญ่ให้แฟน ๆ ได้เต็มอิ่มแบบจุก ๆ กันไปเลยเพราะต่อสู้กันแต่ละครั้งก็กินเวลาพอสมควร สามารถสร้างความเสียหายได้เกินที่จะประมาณการได้ ไม่ว่าจะเป็นการพังเรือบรรทุกสินค้า เครื่องบิน แม้กระทั้งตึกรามบ้านช่อง เรียกว่าราบเป็นหน้ากองเลย สร้างความตื่นตาตื่นใจได้มากทีเดียว ด้วยเทคนิคการถ่ายทำด้วย CG ขั้นเทพที่มองแทบไม่เห็นความผิดพลาดเลย ซึ่งภาพที่ออกมามีความสมจริงเนียนตามาก ๆ ไม่ว่าจะเป็นฉาก สเปเชี่ยลเอ็ฟเฟกต่างๆ หรือแม้กระทั้งหน้าของคิงคองและก็อตซิล่าที่ต่อให้ซูมใกล้กล้องแค่ไหนความเหมือนความเนียนก็เต็มร้อยเปอร์เซนต์ ที่มาพร้อมด้วยงบประมาณการสร้างมหาศาลกว่า 200 ล้านเหรียญ ถือว่าสุดยอดเลยจริง ๆ ยิ่งใหญ่สมกับการรอคอย
ในส่วนการเดินเรื่องก็มีความรวดเร็วไม่ซับซ้อน เรียบง่ายไม่มีอะไรมาก เผยให้เห็นสิ่งที่คิงคองต้องทำเรื่องนี้ก็อย่างที่บอกคิงคองคือพระเอกในภาคนี้ ในส่วนของมนุษย์ก็ไม่ได้มีเนื้อหาเพิ่มเติมเข้ามามากมายนัก ก็ยังเน้นอ้างอิงมาจากภาคก่อนและก็มีเข้าฉากให้เห็นกันอยู่บ้าง เช่น ไคล์ แชนด์เลอร์ แต่บทที่ได้รับในภาคนี้มีส่วนร่วมค่อนข้างน้อยมาก และ มิลลี่ บ็อบบี้ บราวน์ เห็นเธอในภาคนี้แล้วเธอโตขึ้นเยอะเลยแถมหน้าตาน่ารักอีกต่างหาก ส่วนตัวละครใหม่ที่เพิ่มเข้ามาก็จะเป็น รีเบ็กก้า ฮอลล์ รับบทเป็น ดร.ไอลีน แอนดรูว์ รับผิดชอบในการควบคุมดูแลคิงคองบนเกาะกะโหลก มีอำนาจในการตัดสินใจเรื่องของคิงคองทั้งหมด และอีกหนึ่งคนสำคัญของเรื่องคือสาวน้อยเคย์ลี ฮอตเทิล รับบท เจีย ผู้ที่สามารถสื่อสารกับคิงคองด้วยภาษามือ ซึ่งในชีวิตจริงแล้วน้องก็สื่อสารด้วยภาษามือเพราะน้องมีปัญหาเรื่องการได้ยินมาตั้งแต่เกิด ในบทบาทที่น้องได้รับ
น้องสามารถถ่ายทอดความรู้สึกความผู้กพันธ์กับคิงคองออกมาได้อย่างสมจริงและน่ารัก ยิ่งตอนที่นางทำหน้าเศร้า ๆ ยิ่งเพิ่มความน่ารักน่าสงสารมากเข้าไปอีก
สำหรับตัวร้ายของเรื่องอย่าง วอลเทอร์ ซิมมอนด์ (เดเมียน บิเชียร์ ) ของ APEX มาแรกๆก็ดูเหมือนจะร้ายนะแต่พอถึงเวลาจริงๆยังไม่ได้แสดงความร้ายการอะไรออกมาเป็นรูปเป็นร่างเลยตายซะแล้วอารมณ์ประมาณว่า “อะไรว๊าา” เหมือนกับว่าในเรื่องนี้ไม่มีตัวร้ายที่เป็นคนเลย ต้องยกความร้ายกาจให้กับหุ่นยนต์ก็อดซิลลาที่เขาสร้างมันขึ้นมาเป็นตัวร้ายตัวจริงที่คิงคองและก็อตซิล่าต้องร่วมมือกันต่อสู้เพื่อปกป้องโลกเอาไว้
สิ่งหนึ่งที่ทำให้หนังเรื่องนี้ประทับใจหลาย ๆ คนคือฉากบู๊ระหว่างสัตว์ประหลาดที่สนุกกว่าฉากบู๊ของหนังฮีโร่บางเรื่อง ขอเทียบข้ามเรื่องคือ Batman vs Superman ซึ่งควรเป็นหนังฮีโร่ที่ฉากปะทะตรงเป้ามากกว่าเรื่องนี้แต่กลายเป็นฝ่อไร้รสชาติไปเลยเมื่อเทียบกับเรื่องนี้ ทั้งที่เป็นการต่อสู้ของสองฝ่ายที่พลังจริง ๆ ต่างกันชัดเจน Godzilla vs Kong มีซีนต่อสู้หลัก 3 รอบกลับสนุกทั้งสามรอบ ส่วนอีกเรื่องไม่สนุกแม้แต่รอบเดียว
แชร์ได้เลยเพียงกดเบา ๆ