ดูน (Dune 2021) – หนังดีที่สมการรอคอยสำหรับแฟนคลับที่รู้จักนิยายนี้

แชร์ได้เลยเพียงกดเบา ๆ

เรื่องย่อ – เรื่องราวในอาณาจักรกาแลคซีอันไกลโพ้น ราชวงศ์อาทรีเดส (Atreides) เลโท อเทรดีส (ออสการ์ ไอแซค) ได้มารับหน้าที่ปกครองดาวทะเลทรายชื่ออาร์ราคีสซึ่งมีทรัพยากรที่สำคัญที่สุดในจักรวาลที่เรียกว่า “เครื่องเทศ” (Spices) ซึ่งช่วยในการเดินทางข้ามจักรวาล ขณะเดียวกันจักรพรรดิแห่งกาแลคซีก็หวั่นเกรงต่อราชวงศ์อาทรีเดสที่เริ่มเป็นที่นิยมชมชอบของราชวงศ์อื่น ๆ จึงได้ร่วมมือกันกับราชวงศ์ที่เป็นปรปักษ์วางแผนลอบสังหารตระกูลอาทรีเดส แต่พอล (ทิโมธี ชาลาเมต์) กับเลดี้ เจสซิกา (ชาลาเมต์, รีเบ็คก้า) แม่ของเขาหนีไปได้และเข้าร่วมกลุ่มกับชาวฟรีแมนที่เป็นชนพื้นเมือง พอลได้กลายเป็นผู้นำของชาวฟรีแมน ซึ่งพวกเขาเชื่อว่าพอลคือมะห์ดี ผู้ที่จะมากอบกู้และนำความสมดุลกลับคืนสู่ดวงดาว ทั้งหมดวางแผนในการชิงดาวอาร์ราคีสกลับคืนมา

Dune 2021
ดูน (Dune 2021)

พอล อาทรีเดส เด็กหนุ่มอัจฉริยะเจ้าของพรสวรรค์ลำค่าที่เกิดมาพร้อมกับโชคชะตาอันยิ่งใหญ่เกินกว่าจะหยั่งถึง เขาต้องเดินทางไปยังดาวเคราะห์ที่อันตรายที่สุดในจักรวาลเพื่อปกป้องอนาคตของครอบครัวและผู้คนของเขาจากการรุกรานของกองทัพชั่วร้ายผู้สร้างความขัดแย้งไปทั่งทุกสารทิศ เพราะต้องการแย่งชิงทรัพยากรที่ล้ำค่าที่สุดที่เคยมีมา นั่นก็คือเครื่องเทศที่มีสรรพคุณวิเศษ สามารถดึงพลังซ่อนเร้นในตัวมนุษยชาติออกมาได้แต่ศึกครั้งนี้มีเพียงผู้เอาชนะความกลัวเท่านั้นที่อยู่รอด

Paul Atreides
“จุดเริ่มต้นของการเดินทางอันยิ่งใหญ่ของ Paul Atreides”

เดอนี วีลเนิฟว์ ผู้กำกับผู้มากความสามารถที่เคยฝากผลงานอย่างเรื่อง Arrival หนังไซไฟสุดล้ำจนได้เข้าชิงออสการ์มาแล้ว มาคราวนี้ได้หยิบเอานิยายไซไฟสุดคลาสสิกของ แฟรงค์ เฮอร์เบิร์ต ที่ตีพิมพ์ตั้งแต่ปี 1965 มาสร้างเป็นหนังฟอร์มยักษ์ด้วยทุนสร้างถึง 165 ล้านเหรียญสหรัฐ ลงทุนเดินทางไปถ่ายทำถึงสถานที่จริงในทะเลทรายที่สุดจะร้อนระอุถึง 2 ประเทศได้แก่จอร์แดนและสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ นอกจากต้องการทำหนังในความฝันของตัวเองให้เป็นจริงแล้วเรื่องนี้ยังเต็มไปด้วยทีมงานเบื้องหลังที่คับคั่งไปด้วยคุณภาพไม่ว่าจะเป็น จอน สเปตส์ หนึ่งในทีมเขียนบทจาก Prometheus (2012), อีริก รอธ ผู้เขียนบทเจ้าของรางวัลออสการ์จาก Forrest Gump (1994), เกร็ก เฟรเซอร์ ผู้กำกับภาพจากหนังดัง Rogue One: A Star Wars Story (2016)และ The Batman (2022), ปาทริซ เวอร์เมตต์ ผู้ออกแบบงานสร้างที่เคยร่วมงานกันมาแล้วจาก Arrival ,ฮันส์ ซิมเมอร์ มารับหน้าที่ทำเพลงประกอบให้กับหนังรื่องนี้โดยเฉพาะ, และ โจ วอล์คเกอร์ ก็มารับหน้าที่ตัดต่ออีกครั้ง หลังเคยร่วมงานกันมาก่อนจาก Sicario, Arrival และ Blade Runner 2049

Dune 2021

พร้อมเสริมทัพด้วยนักแสดงคุณภาพอีกมากมายไม่ว่าจะเป็นทิโมธี ชาลาเมต์, รีเบ็คก้า เฟอร์กูสัน, ออสการ์ ไอแซค, จอช โบรลิน, สเตลแลน สการ์สการ์ด, เดฟ บาทิสต้า, สตีเฟ่น แมคคินลีย์ เฮนเดอร์สัน, เซนเดย์อา, จาง เจิ้น, เดวิด แดสท์มัลแชน, ชารอน ดันแคน-บรูว์สเตอร์, ชาร์ลอตต์ แรมพลิง, เจสัน โมมัว, ฮาเวียร์ บาร์เด็ม ที่พร้อมจะมาถ่ายทอดจินตนาการสุดล้ำที่จะเกิดขึ้นในอีกหลายหมื่น ๆ ปีข้างหน้า

ภาคที่ 1 นี้เป็นการเล่าเรื่องแค่ครึ่งแรกของหนังสือนิยายเล่มหนึ่งเท่านั้น หนังเริ่มต้นด้วยการปูเรื่องราวของตัวละครแต่ละตัว และด้วยความที่มีตัวละครค่อนข้างเยอะเลยต้องใช้เวลาพอสมควรในการปูเรื่องอาจจะนานไปสักหน่อยด้วยการพาผู้ชมเก็บและซึมซับตัวละครทั้งหลายเสมือนการอ่านหนังสือ แต่ด้วยการจัดการด้านบทที่ดีจึงทำให้ภาคตัวละครมีมิติของตัวเองและทำให้ผู้ชมเข้าถึงและเข้าใจได้ง่ายขึ้นโดยเฉพาะผู้ชมที่ไม่ใช่แฟนของนิยายชุดนี้มาก่อน กลับมีวิธีการเล่าเรื่องที่น่าสนใจไม่ได้ดูแล้วน่าเบื่ออย่างที่คิด

Dune 2021

หนังจะเล่าเรื่องราวความสัมพันธ์ของตัวละครของแต่ละฝ่าย และสอดแทรกฉากการต่อสู้ที่ทำให้ได้ลุ้นอยู่ตลอดเวลา ถึงแม้ว่าภาคแรกนี้จะยังไม่ค่อยจะมีอะไรที่เป็นจุดหักมุมมากนักแต่ช่วงท้ายของตอนจบซึ่งจะเป็นบทเริ่มของภาคต่อไปก็ทิ้งท้ายไว้ได้อย่างน่าติดตามเลยทีเดียว

Dune เป็นหนังที่มีเนื้อหาเข้าใจได้ง่ายๆ ทำให้เรานึกถึงสภาพสังคมปัจจุบัน ทั้งเรื่องการเมือง การยึดอำนาจ การแย่งชิง ภาวะสงคราม ภาวะโลกร้อน และความหวาดกลัวต่าง ๆ เรียกว่ามาครบทุกอารมณ์ทุกองค์ประกอบและด้วยความอลังการทั้งภาพและเสียงที่ยิ่งใหญ่ระดับนี้ จึงเป็นหนังที่เหมาะจะดูในโรง IMAX เท่านั้น หรือหากดูในบ้านแนะนำให้ดูในระดับ 4K พร้อมระบบเสียง Dolby Atmos และลำโพงที่รองรับเพื่อให้ได้รับประสบการณ์ที่สุดแสนพิเศษจริง ๆ

แชร์ได้เลยเพียงกดเบา ๆ

Leave a Comment