ครูเอลล่า (Cruella) – หนังแฟชั่นที่สนุกกว่าที่คิดมาก

แชร์ได้เลยเพียงกดเบา ๆ

เรื่องย่อ – เรื่องราวของความขบถในช่วงแรกเริ่มของหนึ่งในตัวร้ายชื่อกระฉ่อนที่มีความจัดจ้านด้านแฟชั่นที่สุดในวงการภาพยนตร์ ครูเอลล่า เดอ วิล “ครูเอลล่า” (เอ็มม่า สโตน) คือเรื่องที่เกิดขึ้นในลอนดอนปี 1970 ระหว่างการปฏิวัติแฟชั่นสไตล์พังค์ร็อค นักต้มตุ๋นวัยรุ่นชื่อ “เอสเตลล่า” หญิงสาวผู้ชาญฉลาดและมีความคิดสร้างสรรค์ มุ่งมั่นที่จะสร้างชื่อให้กับตัวเองผ่านการออกแบบของเธอ เธอรวมกลุ่มกับคู่หูจอมโจรคือแจสเปอร์และฮอร์เรซที่ชื่นชอบความวายป่วงของเธอร่วมมือกันเพื่อหาเลี้ยงชีพของพวกเขาบนถนนแห่งลอนดอน วันหนึ่งประกายแฟชั่นของ เอสเตลล่า ได้ไปเข้าตา บารอนเนส วอน เฮลล์แมน (เอ็มม่า ธอมป์สัน) ตำนานแฟชั่นสุดชิคและเลิศหรูที่สุดในวงการ แต่ความสัมพันธ์ของพวกเขาได้ก่อให้เกิดเรื่องราวที่จะพลิกโฉม เอสเตลล่า ให้เปิดรับด้านมืดอันร้ายกาจของเธอและกลายเป็นเจ้าแม่แฟชั่นผู้เกรี้ยวกราดและเต็มไปด้วยความอาฆาต ครูเอลล่า

Cruella (2021)
Cruella (2021)

เอ็มมา สโตน ผู้รับบทเป็นตัวเอสเตลล่าและครูเอลล่า แม้จะเป็นคนเดียวกันแต่กลับมีบุคลิกและการแสดงออกที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง เด็กสาวผู้มีความแค้นเกิดมาพร้อมความแตกต่าง เธอเป็นตัวหลักในการดำเนินเรื่องตั้งแต่ต้นจนจบ ซึ่งเอ็มมา สโตน ก็สามารถถ่ายเจ็บปวดของตัวละครของตัวเอสเตลล่าออกมาได้อย่างดี และในส่วนของตัวครูเอลล่าก็ยังคงมีความร้ายกาจอยู่เช่นเดิม

ในส่วนของ เอ็มมา ธอมป์สันกับบทบารอนเนส ตัวร้ายหลักของเรื่องคู่ปรับของครูเอลล่า เล่นจนทำเอาคนดูรู้สึกหมั่นไส้ได้จริง ๆ เรียกว่าได้รับบทบาทไหนมาเธอคนนี้ก็เอาอยู่ นอกจากการฟาดฟันของสองสาวก็ยังมี โจเอล ฟราย กับ พอล วอลเตอร์ ฮาวเซอร์ 2หนุ่มที่ช่วยเข้ามาเสริมความปังปุริเย่ให้กับครูเอลล่าที่พร้อมใจกันมาขายความตลกสุดปั่นป่วน เพิ่มความน่าสนใจได้อย่างลงตัวเลยทีเดียว รวมไปถึงนักแสดงคนอื่นๆก็สร้างสีสันต์ให้กับเรื่องนี้ได้ดีไม่แพ้กัน รวมทั้งเหล่าน้องหมาในเรื่องนี้ก็ทำให้หนังมีความน่ารักเพิ่มมากขึ้น

การต่อสู้ฟาดฟันแก้แค้นกันระหว่างรุ่นใหม่กับรุ่นเก่าด้วยการขนเอาเสื้อผ้าสุดหรูหราสุดคาดคิด ซึ่งแต่ละชุดที่โชว์ในหนังนั้นถือว่าสวยงามมาก มีเหยียดสังคมหน่อยๆ ซึ่งก็สร้างความตกตะลึงให้ผู้ชมได้อย่างมากทีเดียว นอกจากองค์ประกอบของภาพ การแสดง แสง ฉาก และเสื้อผ้าคอสตูมที่เริ่ดๆรวมทั้งหน้าผมที่เรียกว่าจัดเต็มที่ส่งให้เอสเตลล่านั้นโดดเด่นที่สุดอลังการงานสร้าง ทำให้ผู้ชมไม่สามารถละสายตาจากความอลังการได้เลยจริง ๆ สิ่งที่หนังใส่มาเพิ่มในเรื่องนี้คงจะเป็นอะไรไปไม่ได้นอกจากเพลงประกอบหนัง เรียกว่าดูกันแบบเพลินๆหมือนกับว่าเรากำลังดูมิวสิควิดิโอแบบยาวๆต่อเนื่องแบบ Non-Stop กันเลยทีเดียว เพลงส่วนมากที่ใส่มาก็จะเป็นเพลงดังเพลงฮิตในยุค 70’s เข้ากับยุคสมัยนั้น บวกกับฉากต่างๆทั้งตึกรามบ้านช่อง แฟชั่นเสื้อผ้าเป็นวินเทจที่เข้ากันได้อย่างกลมกลืน

Cruella หนัง Live-Action ในภาพยนตร์ชุดนี้บอกเล่าเรื่องราวและถ่ายทอดของเด็กสาวผ่านปมชีวิตตั้งแต่เด็กต้องปากกัดตีนถีบ การต่อสู้เพื่อให้ได้มาซึ่งความฝันนั้นคือการเป็นดีไซเนอร์ ปมแห่งการแก้แค้นและความเจ็บปวดสุดขมขื่นที่เธอได้รับมา ปมที่หล่อหล่อมให้เธอกลายมาเป็นครูเอลล่า ถึงแม้ว่าตัวหนังดูแล้วจะมีความสนุกแต่ก็ยังมีอะไรให้ผู้ชมได้คิดตามไปด้วยอยู่ เมื่อคนเราขาดสติ ทำอะไรโดยการขาดการไตร่ตรองย่อมนำมาซึ่งความเสียหายอย่างคาดไม่ถึง เพราะฉะนั้นเราควรมีสติอยู่ทุกขณะ

สิ่งที่ทำให้หนังเรื่องนี้เด่นคือการเล่าเรื่องและการเดินเรื่อง เอาจริง ๆ ตัวบทคือธรรมดาแต่การเล่าเรื่องที่ไม่ได้เล่าแบบเรียบง่ายเถรเป็นเส้นตรงแต่เป็นการเล่าผ่านประสบการณ์ของตัวละครและสถานที่ต่าง ๆ ที่หลากหลายและการแสดงที่ถึงแก่นของ Emma Stone เมื่อรวมกันทำให้หนังเรื่องนี้ดูสนุกเกือบทั้งเรื่อง ไม่มีมีช็อตที่ทำให้รู้สึกแบบ “อิหยังวะ” เลย อันนี้สำคัญเพราะหนังหลายเรื่องพลาดตอนการเดินเรื่องที่พยายามรวบรัดและมีหลายฉากที่ทำให้คนดูรู้สึก “จับยัด” มากเกินไป นอกจากนี้การเลือกใช้เพลงและแสงก็ทำได้ลงตัวสุด ๆ ซึ่งคนไหนที่ได้ดูแล้วจะไม่มีคำถามในเรื่องนี้เลย

เป็นอีกเรื่องที่มีภาค 2 แน่นอน แนะให้ดูแบบเสียงต้นฉบับ (Soundtrack) จะเข้าถึงอารมณ์หนังได้มากที่สุด

แชร์ได้เลยเพียงกดเบา ๆ

Leave a Comment